🔘 ยางมอเตอร์ไซค์ เป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อการขับขี่ ความปลอดภัย และการยึดเกาะถนน การเลือกยางที่เหมาะสมจะช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย โดยยางมอเตอร์ไซค์มีหลายประเภทและลักษณะเฉพาะเพื่อตอบสนองการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

 ร้านพาร์ทช๊อป ให้บริการเปลี่ยน ยางมอเตอร์ไซค์ ทุกรุ่น ทั้งยางนอก และยางใน ลูกค้าสามารถนำยางมาเอง ทางร้านก็รับบริการใส่ให้ ราคายางเริ่มต้นเส้นละ 350 บาทเท่านั้น พร้อมบริกาซ่อมยางรั่วโดยใช้ตะปูซ่อมยางสุญญากาศ ใช้เวลาไม่นาน พร้อมทีมช่างที่ชำนาญ พร้อมให้บริการ

 ✅ ฝ่ายบริการลูกค้า โทร. 085-082-1111

 ✅ นัดคิวช่าง โทร. 084-716-6600

📌 ประเภทของยางมอเตอร์ไซค์

 1. ยางถนน (Street Tire): ออกแบบมาสำหรับการขับขี่บนถนนปกติ มีดอกยางที่ให้การยึดเกาะดีและใช้งานได้ดีในสภาพถนนเปียกและแห้ง เหมาะสำหรับมอเตอร์ไซค์ใช้งานทั่วไปหรือสกู๊ตเตอร์

 2. ยางวิบาก (Off-Road Tire): เหมาะสำหรับการขับขี่บนพื้นผิวขรุขระ หรือดินลูกรัง มีดอกยางที่ลึกและหยาบเพื่อช่วยยึดเกาะพื้นถนนวิบาก ใช้กับมอเตอร์ไซค์วิบากหรือมอเตอร์ไซค์สไตล์เอนดูโร่

 3. ยางสำหรับการแข่งขัน (Racing Tire): มีความหนาแน่นสูง ยึดเกาะดีเยี่ยมในสภาพถนนเรียบและสนามแข่ง เหมาะสำหรับมอเตอร์ไซค์ที่เน้นสมรรถนะสูง แต่การใช้งานนาน ๆ บนถนนปกติอาจไม่เหมาะสมเนื่องจากเสื่อมสภาพไว

 4. ยางกึ่งวิบาก (Dual-Sport Tire): เหมาะสำหรับทั้งถนนทั่วไปและถนนวิบาก ให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานทั้งในเมืองและขับขี่ในธรรมชาติ เหมาะกับมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งที่ต้องเดินทางหลายสภาพถนน

 5. ยางสำหรับฤดูฝน (Wet Tire): เหมาะสำหรับสภาพถนนที่เปียก มีดอกยางที่ออกแบบให้สามารถระบายน้ำได้ดี ช่วยลดโอกาสลื่นไถล

 1.  ดูขนาดยางที่เหมาะสม: ดูตามคู่มือหรือคำแนะนำจากผู้ผลิต เช่น ขนาดหน้ากว้าง ความสูง และขนาดล้อ

 2. เลือกตามสภาพการใช้งาน: เลือกยางให้เหมาะกับเส้นทาง เช่น ถ้าใช้ในเมืองทั่วไป เลือกยางถนน แต่ถ้าออกทริปบ่อยหรือมีเส้นทางวิบาก เลือกยางกึ่งวิบาก

 3. ตรวจสอบคุณภาพยาง: ยางที่มีคุณภาพดีจะช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

 4. ตรวจสอบลักษณะของดอกยาง: ดอกยางที่เหมาะสมจะช่วยให้ยึดเกาะถนนได้ดี โดยเฉพาะในสภาพถนนเปียก

🔘 ตรวจเช็กลมยางเป็นประจำ: ลมยางที่พอดีช่วยให้ยางทนทาน และยึดเกาะถนนได้ดี

🔘 ตรวจสอบสภาพยาง: ควรดูดอกยางไม่ให้สึกหรอเกินไป และหลีกเลี่ยงการใช้งานในสภาพยางที่ชำรุด

🔘 เปลี่ยนยางเมื่อจำเป็น: หากยางมีรอยร้าวหรือดอกยางสึกควรเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัย

📌ตัวเลขและรหัสตัวอักษรที่อยู่บนแก้มยางมอเตอร์ไซค์ จะเป็นตัวบ่งบอกข้อมูลของยางเส้นนั้น เช่น มีหน้ากว้าง ที่เท่าไร ขนาดกี่นิ้ว รวมถึงวันเดือนปีที่ผลิต และบอกถึงคุณลักษณะ ว่ายางชนิดนี้รองรับการใช้งานได้มากน้อยขนาดไหน ซึ่งถ้าเราศึกษาและมีความรู้จะสามารถเลือกซื้อและนำยางมาใช้ได้เหมาะกับรถของเรา โดยในปัจจุบันจะมีการอ่านค่าตัวเลขบนยางนอกรถมอเตอร์ไซค์อยู่ 2 แบบ คือ แบบมาตรานิ้ว และแบบมาตราเมตริก แต่ที่เราจะเห็นกันบ่อย จะเป็นการวัดแบบมาตราเมตริก ที่มีอยู่ในยางที่ใช้กันทั่วไป ดังนี้

✅ ตัวเลข 2 ตัวหน้าสุดจะบอกถึงหน้ายาง และความ กว้างของยางโดยจะมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร จากภาพตัวอย่างที่เห็นยางมอเตอร์ไซค์เส้นนี้จะมีความกว้างของหน้ายางที่ 70 มิลลิเมตร 

✅ ถัดมาจะเป็นเลขที่บอกถึงซีรีส์ยาง หรือความสูงของแก้มยาง มีค่าวัดเป็นเปอร์เซ็นต์จากความกว้างหน้ายาง ที่มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ จากรูปยางเส้นนี้คือ 70/90 เลข 70 คือ ความกว้างหน้ายางมีขนาด 70 มิลลิเมตร ส่วนเลข 90 คือความสูงของแก้มยางที่วัด เป็นเปอร์เซ็นต์ของความกว้างหน้ายาง ในภาพตัวอย่าง คือ 70% ของ 90 นั่นก็หมายความว่ายางเส้นนี้มีความสูงอยู่ที่ 63 มิลลิเมตร วิธีคำนวณคือ ยางมอเตอร์ไซค์ เส้นนี้ มีความสูงของแก้มยางเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ จากความกว้าง 70 มิลลิเมตร คำนวณด้วยวิธีการ 70 X (90/100) = 63 มิลลิเมตร

✅ ตัวเลขตัวถัดมาจะเป็นเส้นผ่าศูนย์กลางของวงล้อ ซึ่งจากรูปนี้ ยางมอเตอร์ไซค์มีขนาด 17 นิ้ว 

✅ ตัวอักษร M/C จะหมายถึง เป็นยางนอกที่ออกแบบ มาเพื่อรถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ 

✅ ตัวเลขถัดมาจะเป็นความสามารถในการรับน้ำหนัก สูงสุดและตัวหนังสือต่อท้ายจะเป็นสัญลักษณ์ความเร็ว สูงสุดที่ยางเส้นนั้นจะทนได้ จากภาพจะเห็นเลข 38  ต่อท้ายด้วยตัว L ซึ่งตัวเลขจะเป็นค่าดัชนีที่บอกว่า ยางมอเตอร์ไซค์เส้นนี้ สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุดได้เท่าไหร่ ส่วนตัวอักษรภาษาอังกฤษจะเป็นค่าความเร็วสูงสุด ของยางที่จะรองรับได้ ซึ่งจากภาพจะเป็น 38L หมายถึงยางเส้นนี้จะสามารถรองรับ น้ำหนักบรรทุกได้สูงสุด 132 กก. และรองรับความเร็วสูงสุด ได้ที่ 120 กม./ชม. 

✅ รหัสบอกตำแหน่งสวมใส่ยาง เช่น อักษร F = หน้า R = หลัง หรือเป็นลูกศรชี้ไปข้างหน้า-หลัง เพื่อให้ใส่ยางได้อย่างถูกต้อง โดยหัวลูกศรจะต้องชี้ไปในทิศทางที่ล้อ หมุนไปข้างหน้าเท่านั้น ถ้าใส่กลับด้านจะมีผลต่อการขับขี่และการเบรคของตัวรถ

✅ ตัวเลขที่จะบ่งบอกว่ายางเส้นนี้ผลิตขึ้นเมื่อไหร่ ให้ดูที่คำว่า DOT ซึ่งแสดงว่ายางเส้นนี้ได้รับการรับรอง มาตรฐานด้านความปลอดภัยของกรมการขนส่ง ส่วนชุด ตัวเลขที่ตามจากภาพจะเป็น 15H C3977L คือรหัสของโรงงานที่ผลิต รหัสขนาดยาง และตราสินค้าของผู้ผลิตรวมถึงลักษณะเฉพาะอื่น ๆ ของยางแต่ละเส้น

✅ สำหรับตัวเลข 4 ตัวสุดท้าย จะเป็นตัวบอกวันผลิตของยาง โดยตัวเลข 2 ตัวแรกบอกสัปดาห์  ตัวเลข 2 ตัวหลังบอกปี จากตัวอย่างคือ 3723 นั่นหมายถึงเป็นยางที่ผลิตในสัปดาห์ที่ 37 ของปี ค.ศ. 2023 ทั้งนี้การเลือกยางมอเตอร์ไซค์ ควรเลือกซื้อยางที่ผลิตในปีที่จะซื้อหรืออย่างน้อยสุดให้ย้อนหลังไปได้ 1 ปี เช่น ปีนี้ 2023 ควรซื้อยางที่ผลิตในปี 2022 ถ้าต่ำกว่านั้นถือว่าเป็นยางเก่าเก็บไม่แนะนำให้ซื้อมาใช้งาน 

✅ ยางมอเตอร์ไซค์ ส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 10,000-20,000 กม. หรือขึ้นอยู่กับการใช้งาน อีกทั้งยังอยู่ที่ปัจจัยแวดล้อม เช่น สภาพอากาศ หรือแม้กระทั่งการไม่ได้ใช้งานก็สามารถทำให้ยางเสื่อมสภาพได้ ในด้านการตรวจสอบว่ายางเส้นนั้นเสื่อมหรือเริ่มใช้งานไม่ได้ ให้ดูจากบริเวณดอกยางหากดอกยางเริ่มบาง หน้ายางเริ่มเป็นผิวเรียบ  อีกหนึ่งจุดสังเกตที่สำคัญก็คือ สะพานยาง หากใช้นิ้วสัมผัสแล้วพบว่า สะพานอยู่ตื้นมาก นั่นก็หมายความว่าดอกยางเริ่มหายไปเยอะ รวมถึงดูรอยแตกลายงา และรอยปริต่าง ๆ หรือลองใช้เล็บจิกดู ว่าเนื้อยางมีความแข็งมากน้อยขนาดไหน ถ้าตัวยางเริ่มแข็งแสดงว่าเนื้อยางเริ่มเสื่อมคุณภาพถ้ามีอาการต่าง ๆ เหล่านี้ก็สามารถเปลี่ยนยางเส้นใหม่ที่ร้าน พาร์ทช๊อป หรือ โทร. 085-082-1111 ได้ทันที 

#ร้านเปลี่ยนยางมอเตอร์ไซค์ใกล้ฉัน #เปลี่ยนยางมอเตอร์ไซค์ใกล้ฉัน #ยางดีสโตน #ร้านขายยางมอไซค์ #ร้านเปลี่ยนยางPCX ใกล้ฉัน #ร้านเปลี่ยนยางรับบัตรเครดิต #ร้านเปลี่ยนยางFORZAใกล้ฉัน #ยางเวฟ125i #ร้านเปลี่ยนยางXMAXใกล้ฉัน #ร้านเปลี่ยนยางWaveใกล้ฉัน #ร้านเปลี่ยนยางScoopyใกล้ฉัน #Pirelli #ร้านยางPirelliคู้บอน27 #ยางพีรารี #ยางDeestone #ยางดีสโตน #ร้านยางมิชลิน #ยางMichelin #ขายยางMichelin #ยางบริจสโตน #ยางมอเตอร์ไซค์Bridgestone #ยางIRC #ยางมอไซค์ราคาถูก #ร้านยางรามอินทรา #ร้านยางคู้บอน #ร้านยางเลียบคลองสอง #ร้านยางหทัยราษฎร์ #ร้านยางนวมินทร์ #ร้านยางเกษตร